คุณสมบัติที่จำเป็นต่อการเตรี ยมตัวเข้าสู่อาชีพ
คุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพที่ต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
ดังนี้
1. จบการศึกษาตามที่ระบุไว้ในประกาศรับสมัครงาน
หรือสอดคล้องกับอาชีพที่สนใจ
โดยหากต้องการทำงานในสาขาอาชีพใดในอนาคตควรวางแผนการศึกษาและการศึกษาเพิ่มเติมที่นอกเหนือหลักสูตรในการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับอาชีพที่สนใจ
และมุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียนให้ประสบผลสำเร็จ
2. มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ทุกคนที่ทำงานร่วมกันในองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆย่อมต้องการความสบายใจในการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก
พบแต่บรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และยิ้มแย้มแจ่มใส
โดยปราศจากความขัดแย้งต่างๆ ซึ่งการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีนั้นจะช่วยสร้างสิ่งเหล่านี้ได้และก่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงานเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
3. มีความเป็นผู้นำ โดยความเป็นผู้นำความเป็นผู้นำนั้นคือการมีลักษณะของการกล้าคิด
กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าตัดสินใจ และกล้าทำงานบนพื้นฐานของความถูกต้อง ยุติธรรม
มีคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งความเป็นผู้นำนี้จะนำพาองค์กรหรือหน่วยงานก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงได้
4. มีความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบเป็นสามัญสำนึกที่ผู้ทำงานทุกคนต้องมีโดยเอาใจใส่ต่องานที่ได้รับมอบหมาย
ไม่ละทิ้งงาน และมุ่งมั่นทำงานจนสำเร็จ
5. มีความขยัน ความขยันจะช่วยสร้างความกระตือรือร้นให้แก่ตัวเอง
และเพื่อนร่วมงานเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีส่วนสำคัญในการทำให้งานเสร็จเร็ว ทันเวลา
หรือเสร็จก่อนกำหนด
6. มีความซื่อสัตย์ โดยผู้ทำงานต้องมีความซื่อสัตย์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ไม่พูดจาโกหกหลอกลวง
หรือกรอกข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงลงในใบสมัครงาน หรือสร้างเอกสารปลอม เช่น
บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองการศึกษา ปริญญาบัตร เป็นต้น
7. มีความอดทน โดยมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการสมัครงาน การทำงาน
จนกว่าจะประสบความสำเร็จ ไม่ย่อท้อต่อความลำบาก ความเหน็ดเหนื่อยต่อปัญหาและอุปสรรคต่างๆ
8. มีสุขภาพแข็งแรง โดยหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์พักผ่อนให้เพียงพอ
เพื่อให้ร่างกายสามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
และความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
9. ทำงานใต้แรงกดดันได้ดี ด้วยการวางแผนในการทำงานอย่างเป็นระเบียบ มีสติ
มีสมาธิในการทำงานและมองโลกในแง่ดี เช่น ทำใจให้สนุกกับการทำงาน ในเวลาเร่งด่วนหรือมีระยะเวลาจำกัด
เพ่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้โดยไม่ชะงักกลางคัน
ตลอกจนลดความเสียหายของงานช่วยประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน และประหยัดค่าใช้จ่ายได้
10.มีความสามารถทางภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยศึกษาเพิ่มเติมในสถาบันที่เปิดสอนภาษาต่างๆ
เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น
เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการทำงานร่วมกับคนในองค์กร หน่วยงาน
หรือผู้มาติดต่อธุรกิจการงานที่เป็นชาวต่างประเทศ
ซึ่งความสามารถด้านนี้มีส่วนสำคัญในการโน้มน้าวให้ผู้ว่าจ้างรับเข้าทำงาน
ตั้งแต่อ่านใบสมัคร
11. มีความสามารถด้านการใช้คอมพิวเตอร์
ในหลักสูตรการเรียนการสอนของสถานศึกษาอาจให้นักเรียนได้ฝึกใช้คอมพิวเตอร์ในระดับพื้นฐาน
ซึ่งในการทำงานจริงจำเป็นต้องใช้ทักษะและความชำนาญมากกว่าที่ได้เรียนรู้ ดังนั้น
นักเรียนควรศึกษาเพิ่มเติมกับสถาบันที่เปิดสอนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง
เช่น คอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบคอมพิวเตอร์ เพื่อการสร้างเว็บไซต์
เพื่อให้มีความสามารถเหนือกว่าผู้สมัครงานคนอื่นๆที่ต้องการสมัครงานตำแหน่งเดียวกับเรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น